9 เทรนด์ธุรกิจล่าสุด 2018 อยากรวยต้องรู้ อยากรอดต้องปรับตัว

การก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2561 ในครั้งนี้ต้องขอบอกว่าปฏิเสธไม่ได้เลยสำหรับกระแสพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังคงเปลี่ยนไปทุกวัน เป็นหน้าที่ของเจ้าของธุรกิจที่จะต้องคอยเร่งฝีเท้าก้าวตามให้ทัน รวมทั้งปัจจัยด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างน่าเหลือเชื่อในปัจจุบัน ทำให้สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจจะต้องเดินหน้าปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ กันต่อไป

ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงกระแสธุรกิจที่น่าจับตามองเพื่อนำมาปรับใช้ในภาคธุรกิจปีนี้กัน ซึ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านหรือนักลงทุนทุกท่าน

ทำธุรกิจเดิมๆ ให้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม

ธุรกิจเดิมๆในที่นี้ หมายถึงบรรดาธุรกิจที่ไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวมักจะนึกถึงกัน ได้แก่ ธุรกิจร้านน้ำปั่น, ร้านกาแฟ, ร้านเสริมสวย, ซักอบรีด, คาร์แคร์ หรือแม้กระทั่งขายหมูปิ้ง ที่ยังสามารถอยู่รอดและเติบโตขึ้นได้เรื่อยๆตามความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่หมูปิ้งก็ยังเป็นอาหารเช้าที่คนทำงานหลายๆคนโหยหา รวมถึงธุรกิจให้บริการด้านความสวยความงามก็เช่นกันที่ยังคงเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนตลอดกาลไม่ว่าจะธุรกิจเล็กหรือใหญ่ก็ตาม

กล่าวให้เห็นภาพคือไม่ว่าเศรษฐกิจของประเทศชาติจะตกต่ำลงแค่ไหน แต่ผู้หญิงก็ยังคงต้องสระผมไดร์ผมที่ร้านเสริมสวยอยู่ดี และยิ่งปัจจุบันมี Social Media เข้ามาช่วยในการทำการตลาดไม่ว่าจะทางตรงทางอ้อม ทั้งผู้ประกอบการโพสเอง หรือลูกค้ารีวิวให้เอง ต่างก็ส่งผลให้เกิดกระแสปากต่อปากที่รวดเร็วและทรงพลัง ทำให้เกิดการรับรู้ เพิ่มผลกำไรและลูกค้าใหม่ๆได้อย่างไม่ยากเย็น

ผสมผสานไอเดียสร้างสรรค์ธุรกิจให้โดดเด่น

ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าธุรกิจจำนวนมากต่างเกิดขึ้นจากความสร้างสรรค์ของเจ้าของกิจการเกิดขึ้นเป็นธุรกิจใหม่ๆที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขายลูกโป่งแฟนซีประกอบงานปาร์ตี้ ธุรกิจโรงแรมสำหรับน้องหมา หรือแม้กระทั่งธุรกิจเกี่ยวกับอาหารการกินก็ไม่เว้น

จากการใส่ความแปลกใหม่ลงไปในกิจการ ทำให้ธุรกิจขายข้าวที่แลดูจะธรรมดาแต่กลับไม่ธรรมดาสำหรับลูกค้า เช่น อาหารตามสั่งเสิร์ฟมาโดยภาชนะสุ่มตามแม่ค้า นอกจากลูกค้าจะได้ลุ้นแล้วยังได้เสียงฮาอีก หรือวุ้นกระทิเดิมๆอาจจะดูปกติเกินไปสำหรับกลุ่มผู้บริโภคสมัยนี้ จึงทำให้เกิดธุรกิจไอเดียแปลกใหม่อย่างที่เราคุ้นหูกันกับกิจการขายวุ้นกระทิน้องหมาออนไลน์ พีคสุดๆในโลกโซเชียล ขายดิบขายดีกันไป เพราะแม้กระทั่งผู้เขียนเองก็ยังอดทึ่งไม่ได้ ก็มันเหมือนน้องหมาซะจริงๆ

เทรนด์สุขภาพมาแรง

เพราะว่าไม่มีใครอยากประหยัดกับเรื่องสุขภาพ หลักฐานคือการที่ผู้บริโภคในปัจจุบันมีความใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น ทำให้เกิดธุรกิจส่งเสริมสุขภาพมากมายอย่างที่เราเห็นกันในวันนี้ เช่น ร้านขายอาหารคลีนส่งตรงถึงบ้าน  ฟิตเนสใหม่ๆผุดขึ้นเป็นว่าเล่น หรืออยู่ดีๆผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ก็หันมาเพิ่มสูตรสารสกัดจากธรรมชาติ ห่วงใยสุขภาพเป็นพิเศษซะงั้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องไม่ลืมว่าสินค้าหรือบริการที่ดีขึ้นและตอบสนองความต้องการของเราที่ตรงจุดมากขึ้น ก็จะต้องแลกด้วยราคาเพิ่มเติมที่ผู้บริโภคจะต้องจับจ่ายใช้สอยกันไปหากต้องการสิ่งที่ดีกว่าให้กับตัวเอง ผู้บริโภคพอใจได้รับสินค้าหรือบริการที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย ส่วนเจ้าของกิจการก็แฮปปี้ได้กำไรเช่นกัน Win-Win กันทั้งสองฝ่าย

อีกระดับของการใช้ Social Media ในธุรกิจ

ปีที่แล้วถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของการทำธุรกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก (แต่ทั่วโลกอาจจะนำหน้าไปก่อนเราแล้ว) จากเทรนด์การใช้ Social Media ที่ได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวาง เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันทั้งกับเราและคนรอบข้าง แน่นอนว่าทำให้เจ้าของธุรกิจต่างก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะหันมาทำออนไลน์กัน คือเอะอะอะไรก็ออนไลน์ไว้ก่อนจะแน่นอนกว่า ทำไปให้หมดทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น Website, Facebook, Line, Instagram บางธุรกิจล้ำมากมีแม้กระทั่ง Youtube หรือ Pinterest ซึ่งจะได้ผลไม่ได้ผลก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง

ในปีนี้แน่นอนว่าเรื่อง Social Media ยังไงก็หนีไม่ได้ ต้องใช้แน่นอน  แต่อาจจะเป็นคนละรูปแบบกันกับปีที่แล้วซึ่งจะเน้นเป็นเรื่องการโฆษณาสร้างการรับรู้ แต่ปีนี้การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ถือเป็นคีย์หลัก ได้เวลาที่เจ้าของธุรกิจจะต้องเช็คอินร้านตัวเอง คือไม่ใช่เฉพาะร้านก็ต้องดีเท่านั้น แต่เจ้าของร้านก็จะต้องมีความน่าเชื่อถือ จึงจะช่วยส่งเสริมแบรนด์สินค้าให้แกร่งมากขึ้น

ธุรกิจให้บริการเฉพาะทางกำลังรุ่ง

ธุรกิจเฉพาะทางในที่นี้ได้แก่งานที่ต้องการทักษะเฉพาะตามสายงานนั้นๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ที่ปรึกษาด้านภาษีอากร นักวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงธุรกิจที่ให้บริการด้านดิจิตอลโดยเฉพาะก็เช่นกัน

การให้บริการใดๆก็ตามที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบเจาะจงถือว่าเป็นธุรกิจที่อยู่ในกระแสของปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป และการทำธุรกิจเฉพาะทางก็ยังหมายถึงว่าเรามีความเชี่ยวชาญทางด้านนั้นโดยตรง ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากในตลาด เกิดขึ้นเป็นความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภค เป็นโอกาสที่น่าสนใจในการกระโดดลงไปแข่งขันในสนามแห่งนี้ หากว่าผู้ประกอบการมีความเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งอย่างแท้จริง

รีวิวไม่ใช่ทุกอย่างของธุรกิจ

โลกธุรกิจไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน สินค้าที่เราเห็นรีวิวกันเยอะๆก็เช่นกัน 

ถ้าเกิดใครยังไม่เห็นภาพให้ลองนึกถึงโจ๊กต้มยำกุ้งมังกรที่เราต่างก็ฮือฮาเห็นรีวิวกันแทบทุกวันอยู่พักหนึ่ง อยู่ดีๆ ร้านขายโจ๊กแซ่บโปะหน้าด้วยซีฟู๊ดก็ผุดขึ้นมาแทบทุกตรอกซอกซอย แต่พอมาจนถึงทุกวันนี้เรากลับไม่เห็นภาพนั้นอีกต่อไป เพราะอย่างที่กล่าวไปว่า รีวิวไม่ใช่สูตรสำเร็จของการทำธุรกิจ  

ถึงแม้การทำรีวิวถือเป็นกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ที่ผู้ประกอบการมักจะคิดถึงเป็นลำดับต้นๆเมื่อต้องการทำให้ข้อมูลสินค้าแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หรือสร้างความต้องการชั่วขณะให้กับกลุ่มเป้าหมาย แต่ในท้ายที่สุดแล้วเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมากในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในยุคนี้นั่นก็คือ ธุรกิจจะต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้อย่างแท้จริงนั่นเอง 

อาชีพใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตจะผุดขึ้นมาอีกเรื่อยๆ  (สมัยนี้เล่นเกมให้คนดูก็ได้เงิน?!)

แน่นอนว่าจากพฤติกรรมของคนสมัยนี้ที่เปลี่ยนไป อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้เราได้เห็นอาชีพใหม่ๆเกิดขึ้นมามากมายในปี 2017 ไม่ว่าจะเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ (Beauty Blogger)  นักรีวิวสินค้า (Reviewer)  แม่ค้าพ่อค้าขายของออนไลน์ ซึ่งเป็นอะไรที่เราได้ยินกันจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

ส่วนในปี 2018 ก็เช่นกัน เราเริ่มเห็นการพูดถึงอาชีพใหม่อย่างนักแข่งเกมมืออาชีพ (Pro-Player) หรือสตรีมเมอร์ (Streamer) อาชีพใหม่โดนใจวัยรุ่น ซึ่งทำรายได้จากการเล่นเกมให้คนอื่นดูไม่น้อย และเผลอๆจะทำเงินได้มากกว่าอาชีพปกติซะอีก เป็นอีกช่องทางการสร้างรายได้ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีทักษะด้านการพูด และความกล้าแสดงออก รวมทั้งเป็นโอกาสน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาตลาดใหม่ๆ ในการสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจของตนเอง

ไม่ใช่แค่ทำก่อน แต่จะต้องทำให้แตกต่าง

ความแตกต่างในเชิงบวกคือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจสมัยนี้ประสบความสำเร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2018 ธุรกิจจำเป็นที่จะต้องมีความแตกต่างเพื่อที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ผู้ประกอบการควรพิจารณาการนำนวัตกรรมหรือไอเดียใหม่ๆเข้ามาผนวกใช้ในธุรกิจของตัวเอง

การทำธุรกิจในยุคดิจิตัลทุกวันนี้ เราเห็นแล้วว่าการทำธุรกิจแบบซื้อมาขายไปง่ายๆเริ่มไม่ทรงประสิทธิภาพอีกต่อไป แม้กระทั่งร้านกาแฟชื่อดังระดับโลกอย่าง Starbuck ก็ยังไม่เคยหยุดนิ่ง นับว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ขยันในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วยพัฒนาการให้บริการเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆของผู้บริโภคอยู่เสมอ ล่าสุดมี Application และ Chatbot ที่ลูกค้าสามารถสั่งออเดอร์และจ่ายเงินได้เลยผ่านเสียง ซึ่งถึงว่าเป็นการ วิ่งนำ คู่แข่งไปอีกหลายก้าว จัดว่าเป็นการปฏิวัติวงการร้านกาแฟแบบยิ่งใหญ่กันเลยทีเดียว

ลาก่อน การขายของออนไลน์บนเฟสบุ๊ค

ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนผันตามกาลเวลา แม้ในปี 2016-2017 ที่ผ่านมาจะเป็นช่วงพีคของกระแสการขายของออนไลน์ จะเห็นได้ว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าหรือกระทั่งพนักงานประจำต่างก็ไม่ลังเลที่จะกระโดดลงมาแข่งขันบนตลาดออนไลน์ทั้งสิ้น แต่อย่าลืมว่าการขายของผ่านช่องทาง Facebook เปรียบเสมือนการยืมพื้นที่เปิดร้านค้าที่ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของเรา 100% พูดง่ายๆว่า ร้านค้าบนเฟสบุ๊คไม่ใช่ร้านของเรา ดังนั้นเราจึงต้องยอมรับผลของการไม่สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงใดๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้ได้ ซึ่งพี่มาร์คของเราก็ขยันพัฒนา Product ของตัวเองเสียจริง ปรับเปลี่ยนกันแทบทุกเดือน  

ล่าสุด Facebook มีการปรับปรุงระบบ Algorithms เพื่อลดการเข้าถึงเนื้อหา (Content) จากเพจฮวบฮาบอย่างไร้เยื่อใย หมายความว่าผู้ใช้เฟสบุ๊คทุกท่านก็จะได้รับข่าวสารบนหน้าฟีดส์ตัวเองจากเพจลดลง ส่งผลต่อการขายของออนไลน์ในปัจจุบันซึ่งอาจไม่เวิร์คอีกต่อไป ไม่ว่าจะร้านเล็กหรือร้านใหญ่ต่างก็โดนผลกระทบกันหมด เป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาแล้วที่ผู้ประกอบการควรต้องพิจารณาถึงช่องการขายอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่นการทำเว็บไซต์ขายของเป็นของตัวเองเพื่อให้ธุรกิจยังสามารถเติบโตเอาตัวรอดต่อไปได้ในปีนี้